เปลี่ยนรถคู่ใจ ให้เป็นอุปกรณ์หาเงิน

จากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 นั้น ส่งผลกระทบต่อประชาชนและบุคคลทุกภาคส่วน  ธุรกิจไม่ว่าจะเป็น SME ผู้ประกอบการ ลูกจ้าง หรือแม้แต่พนักงานโรงงาน พนักงานออฟฟิศ แอร์ฮอสเตจหรือแม้กระทั้งตัวนักบิน ก็ประสบพบเจอกับปัญหาเกี่ยวกับการเงิน การขาดรายได้ และบ้างก็อาจจะถูกลดเงินเดือน หรือมีรายได้ประจำที่ลดลงอีกด้วย แต่ท่ามกลางวิกฤติก็ยังพอมีโอกาสให้แสวงหา เพราะในช่วง COVID-19 หลายอาชีพอาจหยุดชะงัก แต่ก็ยังมีอาชีพและบริการบางอย่างที่เป็นต้องการ อีกทั้งยังเป็นช่องทางการสร้างรายได้เสริมได้เป็นอย่างดีซึ่งนั้นก็คืออาชีพ “รับ-ส่งทั้งของและอาหาร” หรือที่เราเรียกว่า ไรเดอร์ เดรฟเวอร์ นั้นเองครับ 

4 อาชีพที่เราเปลี่ยนรถคู่ใจ ให้เป็นอุปกรณ์หาเงิน

●รับจ้างขนส่งสินค้า / ย้ายของ

ด้วยสถานการณ์ COVID-19 ในปัจจุบันนี้ มีความต้องการการขนส่งสินค้าและย้ายของมากมาย จึงเป็นโอกาสให้เราได้นำรถคู่ใจมาให้บริการรับส่งของได้แทนเพื่อสร้างรายได้ให้กับเรานั้นเองครับ ซึ่งอาชีพนี้เป็นอีกหนึ่งบริการที่กำลังได้รับความนิยมในปัจจุบัน ซึ่งจะเล็งในกลุ่มลูกค้าที่ซื้อของชิ้นใหญ่จากห้างสรรพสินค้าแต่ขนกลับเองไม่ได้ หรือต้องการย้ายที่อยู่แต่ไม่มีรถขนของ โดยคุณมีหน้าที่เพียงขนส่งของเหล่านี้ไปยังที่หมายปลายทางเท่านั้น

●รับ-ส่งสินค้าจากไปรษณีย์

จากสถานการณ์ COVID-19 ทำให้หลายๆ คนต้อง Work From Home อยู่ภายในบ้าน ส่งผลให้การสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ผ่านช่องทางออนไลน์ได้รับความนิยม ปริมาณของพัสดุที่ต้องรับ-ส่งจึงมีจำนวนเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน ทำให้ไปรษณีย์ทั้งภาครัฐและเอกชนก็ต่างต้องการผู้ช่วยนำส่งพัสดุจำนวนมากเหล่านี้ ปกติแล้วงานรูปแบบนี้เรามักจะเห็นคนขับมอเตอร์ไซค์เป็นผู้รับ-ส่งซะส่วนใหญ่ แต่ด้วยปริมาณของพัสดุมีเป็นจำนวนมหาศาล ทำให้บางครั้งการขนส่งต้องพึ่งรถใหญ่มากกว่า รถยนต์ที่สามารถขนสินค้าได้จึงเป็นที่ต้องการ จึงเหมาะแก่การนำรถคู่ใจของเราเปลี่ยนอุปกรณ์ในการสร้างรายได้แล้วหล่ะครับ

●ไรเดอร์รับ-ส่งอาหาร

ลักษณะงานของไรเดอร์ คือ รับส่งอาหารจากที่ร้านอาหารไปถึงที่พักของลูกค้า ภายในเวลาประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง โดยที่อาหารต้องไม่ได้รับความเสียหาย บ้างก็รับส่งของ เช่น เอกสาร พัสดุ ของบางอย่าง ที่สามารถขนไปได้ด้วยรถขนาดเล็ก ซึ่งปัจจุบันการรับส่งของนั้น ได้มีการให้บริการของรถใหญ่เพิ่มเข้ามาแล้ว ของต้องไปถึงมือลูกค้าภายในระยะที่กำหนดตามระยะทาง  ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีรถคู่ใจเป็นมอเตอร์ไซด์นั้นเองครับ

5 วิธีการดูแลรถคู่ใจ ให้ขับขี่ปลอดภัยอยู่เสมอ

1. ขับขี่อย่างนุ่มนวล การขับขี่รถอย่างนุ่มนวล ทั้งการออกตัวที่ไม่กระโชกโฮกฮากและการเว้นระยะเบรกอย่างเหมาะสม ไม่เพียงช่วยรักษาความสมบูรณ์ของตัวรถให้คงอยู่ยาวนานเท่านั้น แต่ยังช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุด้วย

2. พยายามล้างรถสัปดาห์ละครั้ง การล้างรถช่วยให้ตัวรถดูสะอาดน่าใช้ พร้อมกับชำระล้างสิ่งสกปรกที่อาจมีฤทธิ์กัดกร่อนและฝังอยู่ในร่องหลืบที่เรามองไม่เห็น ควรทำความสะอาดภายในห้องโดยสารให้สะอาดเอี่ยมด้วยเช่นกัน พรมปูพื้นควรนำออกมาล้างและตากแดดเป็นครั้งคราวเพื่อไม่ให้เกิดสิ่งหมักหมมและเป็นอันตรายต่อทางเดินหายใจ ไม่ควรลืมลงแว็กซ์รถให้ทั่วเพื่อรักษาคุณภาพสีรถให้สวยเงางามหลายปี

3. หากเลือกได้ควรจอดรถในร่ม พยายามหาที่จอดรถในร่มเพื่อรักษาสีของตัวรถและปกป้องห้องโดยสารจากแสงแดดที่แผดเผาของบ้านเรา ถ้าไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ อาจใช้แผงกันแดดปิดบังคอนโซลไว้เพื่อป้องกันความเสียหายของวัสดุพลาสติก

4. ดูแลและตรวจเช็คยางรถยนต์เป็นประจำ ควรหมั่นตรวจสอบแรงดันลมยางอย่างสม่ำเสมอโดยเติมลมยางตามคู่มือรถอย่างน้อยเดือนละ 2 ครั้ง ซึ่งไม่เพียงจะให้ความปลอดภัยในการขับขี่เท่านั้น แต่ยังช่วยประหยัดน้ำมันด้วย

5. เปลี่ยนหัวเทียนและดูแลรักษาแบตเตอรี่ แนะนำให้เปลี่ยนหัวเทียนทุก 50,000 กม. เพื่อประหยัดน้ำมัน ส่วนแบตเตอรี่ควรตรวจสอบสภาพตัวแบตเตอรี่อย่างสม่ำเสมอเพื่อยืดอายุการใช้งาน โดยควรทำความสะอาดให้ใหม่อยู่ตลอดเวลา

เป็นอย่างไรบ้างครับกับ “อาชีพที่เราเปลี่ยนรถคู่ใจ ให้เป็นอุปกรณ์หาเงิน”ที่เราได้นำมาแนะนำทุกๆ ท่านกันในวันนี้ เราหวังว่าจะเป็นปะโยชน์ให้กับทุกๆ ท่านบ้างนะครับ ทั้งนี้ก็ขอให้รักษาสุขภาพและใส่หน้ากากป้องกันเวลาออกไปข้างนอกกันด้วยนะครับ