ขึ้นชื่อว่าเป็น “รถมือสอง” นั้น ย่อมที่จะต้องใช้เวลาในการเช็คสภาพทั้งตัวรถ เครื่องยนต์และพื้นที่อื่นๆ ซึ่งอีกหนึ่งเรื่องที่ควรให้ความสำคัญไม่น้อยน่าไปกว่าสิ่งอื่นๆ นั้นก็คือ “การตรวจสอบประวัติรถ” นั้นเองครับ บทความนี้จะขอพาทุกๆ ท่านไปพบกับ “เราสามารถตรวจสอบประวัติรถได้อย่างไรบ้าง?” เพื่อเป็นแนวทางในการเก็บหลักฐานครับ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา เราไปชมกันเล่ยย
ทำความรู้จักกับ “รถยนต์มือสอง”
รถมือสอง (car) เป็นรถที่ผ่านการเป็นเจ้าของมาแล้วมากว่า 1 ครั้ง รถมือสองมีจำหน่ายทั่วไปตาม เต๊นท์รถมือสอง บริษัทรถเช่า แฟรนไซด์ของตัวแทนจำหน่ายรถใหม่ ผู้ขายมักจะมีการรับประกันให้เพิ่มเติมในบางส่วน รวมไปถึงบริการซ่อมบำรุงและอะไหล่ สำหรับการขายรถโดยเจ้าของรถเอง เรียกว่า รถบ้าน ซึ่งต่อมาผู้ขายเต๊นท์รถมักจะใช้คำว่า รถบ้าน แทนรถที่ผ่านการใช้งานเพียงเจ้าของเดียว
3 แนวทางการเช็คประวัติรถยนต์
►ตรวจสอบหลักฐานต่างๆ ของตัวรถ ก่อนสิ่งอื่นใด นอกเหนือจากการตรวจสอบสภาพตัวรถตามขั้นตอนปกติของการซื้อรถมือสองแล้วนั้น ควรตรวจเช็กเอกสารทางทะเบียนด้วยทุกครั้ง เช่น สมุดคู่มือจดทะเบียนรถ ที่ระบุลำดับผู้ครอบครอง, วันที่ครอบครอง, เลขตัวถัง, เลขเครื่องยนต์, สีตัวถัง ฯลฯ จะต้องตรงกับตัวรถ มีที่มาที่ไปชัดเจน
►ตรวจเช็กประวัติกับขนส่งฯ หากมีข้อมูลเบื้องต้นของตัวรถ เช่น เลขทะเบียน, รหัสตัวถัง ฯลฯ สามารถตรวจสอบข้อมูลกับสำนักงานขนส่งในพื้นที่ได้ เพื่อตรวจสอบถึงประวัติการชำระภาษี, การกระทำผิดกฎหมาย หรือการจดทะเบียนไม่ถูกต้อง จะช่วยให้สบายใจได้ว่ารถที่เราซื้อมานั้นขาวสะอาด ไร้ปัญหากวนใจในอนาคตครับ
►หลีกเลี่ยงการโอนลอย การโอนลอยเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมอย่างสูงในปัจจุบัน เนื่องจากสะดวกกับทั้งผู้ซื้อและผู้ขาย หากเป็นรถที่ซื้อจากเต๊นท์มือสองที่มีชื่อเสียง ไว้ใจได้ ก็คงไม่มีปัญหานัก (เพราะหากมีปัญหาในการโอนขึ้นมาจริงๆ ก็ยังมีหลักฐานชัดเจนเพื่อดำเนินการอื่นต่อไป) แต่กรณีเป็นการซื้อกับผู้ขายโดยตรง หากผู้ขายทราบดีอยู่แล้วว่าการได้มาของรถผิดปกติ ทำให้ไม่สามารถโอนเป็นชื่อผู้ซื้อได้นั้น ก็อาจมีความเสี่ยงที่จะถูกลอยแพได้
แนะนำ 2 วิธีเช็ครถยนต์มือสองที่เคยประสบอุบัติเหตุมาแล้ว
●ควรก้มมองช่วงล่าง เช็ครอยสนิม-คราบน้ำให้ดี ขั้นตอนนี้อาจต้องอาศัยประสบการณ์พอสมควร เพราะว่านี่เป็นวิธีการตรวจสอบรถที่เคยเกิดอุบัติเหตุตกลงไปในน้ำหรือเคยเจอน้ำท่วมมาก่อน แม้ว่าจะนำรถคันนั้นมาทำให้แห้งและทำสีใหม่ แต่ตามช่วงล่างของรถพร้อมบอกทุกสิ่งได้หมด โดยเฉพาะคราบสนิมที่ติดตามช่วงล่างที่การจัดการเข้าไปไม่ถึง พร้อมจะบอกกับคุณได้เลยว่ารถคันนี้ผ่านอะไรมาบ้าง
●ตรวจสอบรถ ตัวรถควรจอดในที่ราบและมีแสงสว่างมากพอ เพราะการจอดรถที่ในที่ราบ เราสามารถตรวจสอบโครงสร้างและความสมดุลของรถ ได้ว่ารถยังคงอยู่ในระนาบเดิมหรือไม่ เพราะรถที่เคยเกิดอุบัติเหตุมาแล้ว ระนาบสมดุลจะเปลี่ยนไป “ไม่เหมือนเดิม” ปกติแน่นอน รวมไปถึงการตรวจสภาพรถในที่ที่มีแสงสว่าง กลางแจ้งโล่ง ๆ ยิ่งดี เพราะจะทำให้เรามองเป็นรอยปะผุที่เกิดขึ้นรอบตัวรถได้ง่าย เห็นจุดตำหนิที่มีในรถ (ถ้ามี) ได้ง่ายกว่าจอดในที่ร่ม มืด ๆ ซึ่งแสงและเงาอาจทำให้คุณมองไม่เจอในตอนตรวจสภาพก่อนซื้อ
เป็นอย่างไรกันบ้างครับกับข้อมูลเกี่ยวกับ “เราสามารถตรวจสอบประวัติรถได้อย่างไรบ้าง?” ที่เราได้รวบรวมมาฝากทุกๆ ท่านกันในบทความข้างต้นนี้ หวังว่าจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังมองหารถมือสองกันนะครับ
