Today Thursday, 25th April 2024
Churchillmining

Beyond the reel

โรงพิมพ์พลาสติก ผู้ช่วยขั้นสุดท้ายก่อนวางขายสินค้าพลาสติก

โรงพิมพ์พลาสติก ผู้ช่วยขั้นสุดท้ายก่อนวางขายสินค้าพลาสติก

                สินค้าพลาสติกในตลาดมีอยู่เยอะมาก การจะวางขายแบบเรียบ ๆ ไม่มีลูกเล่นอะไรเลยนั้นอาจไม่ดึงดูดใจให้คนอยากซื้อสักเท่าไหร่ บทความนี้เลยจะมาแนะนำวิธีเพิ่มมูลค่าสินค้าให้แตกต่างกว่า โดดเด่นกว่า และกระแทกสายตายิ่งกว่า ด้วยผู้ช่วยขั้นสุดท้ายก่อนวางขายอย่าง “โรงพิมพ์พลาสติก

โรงพิมพ์พลาสติกช่วยอะไรได้บ้าง

                โรงพิมพ์พลาสติกจะช่วยสร้างความโดดเด่นให้สินค้าคุณ ได้ทั้งการพิมพ์ลายลงไปบนพลาสติกเลย เช่น ฝากล่องอาหาร หรือถุงพลาสติกลวดลายต่าง ๆ และการพิมพ์ลายใส่พลาสติกรูปแบบสติกเกอร์ แล้วนำมาแปะบนสินค้าอีกทีหนึ่ง เช่น โลโก้แบรนด์ ฉลากสินค้า และคาแรคเตอร์ตัวการ์ตูน โดยมีเทคนิคการพิมพ์ที่นิยมใช้กัน ดังนี้

พิมพ์ดิจิทัล (Digital Printing)

เทคนิคการพิมพ์ที่สะดวกและรวดเร็วที่สุด เพราะไม่ต้องใช้แม่พิมพ์ แค่มีคอมพิวเตอร์และเครื่องปรินท์ก็เพียงพอ เหมาะกับการพิมพ์ลงบนเนื้อสติ๊กเกอร์ต่าง ๆ ในปริมาณไม่เยอะมาก (ไม่เกิน 500 ใบ)

ออฟเซ็ท (Offset Printing)

เป็นการพิมพ์บนพื้นราบที่ใช้หลักการการแยกชั้นของน้ำกับน้ำมัน มักใช้กับการพิมพ์สติกเกอร์ที่ต้องการความละเอียดสูงกว่า 2400 x 2400 dpi และจำเป็นต้องใช้ปริมาณมาก ในเวลาอันรวดเร็ว

กราเวียร์ (Gravure Printing)

การพิมพ์ที่ใช้แม่พิมพ์แบบร่องลึก ใช้เวลาและต้นทุนในการทำแม่พิมพ์สูง โรงพิมพ์พลาสติกจึงมักจะรับพิมพ์แบบนี้ให้กับบริษัทที่ต้องการพิมพ์ถุงขนม ถุงพลาสติก บรรจุภัณฑ์อาหาร หรือเครื่องครัว ในปริมาณมากหรือในระยาวเท่านั้น

เฟล็กโซกราฟี (Flexography)

เป็นการพิมพ์พื้นนูนที่ใช้แผ่นพอลิเมอร์ความยืดหยุ่นดีมาทำแม่พิมพ์ สร้างภาพต่าง ๆ โดยการกดทับ คุณภาพงานพิมพ์จะไม่สูงมาก แต่ยังมีให้เห็นอยู่บ้างกับการพิมพ์ลายบนถุงและซองพลาสติก

สามมิติ (3D Printing)

เทคโนโลยีการพิมพ์ที่ไม่จำเป็นต้องใช้แม่พิมพ์ แต่ใช้เพียงแค่โปรแกรม 3D Printing ในการออกแบบและสั่งพิมพ์เท่านั้น นิยมใช้กับการพิมพ์ลายสติกเกอร์ที่มีความซับซ้อนสูง และต้องการใช้ในปริมาณไม่มาก เพราะโรงพิมพ์พลาสติกจะใช้เวลาในการพิมพ์ต่อชิ้นค่อนข้างนาน

เลือกโรงพิมพ์ยังไงดี

                ผู้ผลิตสินค้าควรเลือกโรงพิมพ์พลาสติกที่ตอบโจทย์ความต้องการ เช่น ถ้าต้องการสั่งพิมพ์ลายบรรจุภัณฑ์จำนวนเยอะมาก ควรมองหาโรงพิมพ์ขนาดกลางถึงใหญ่ที่สามารถทำแม่พิมพ์ขึ้นใหม่และพิมพ์แบบกราเวียร์ได้ หรือถ้าต้องการพิมพ์สติกเกอร์เพียงเล็กน้อย อาจเลือกเป็น 3D Printing หรือพิมพ์แบบดิจิทัล ตามงบประมาณที่จ่ายไหว เป็นต้น

หลังจากนั้นอาจขอดูตัวอย่างผลงานที่ผ่านมาของโรงพิมพ์ เพื่อประกอบการตัดสินใจ หรืออาจลองเจียดงบประมาณไปสั่งทำอย่างละเล็กน้อยกับหลาย ๆ โรงพิมพ์ เพื่อหาโรงพิมพ์ที่เหมาะแก่การใช้งานระยะยาวต่อไป

และอีกข้อสำคัญที่อาจนำมาพิจารณาด้วยคือ การจัดส่งจากโรงพิมพ์ เพราะไม่ใช่ทุกคนที่จะโชคดีเจอโรงพิมพ์พลาสติกใกล้บ้าน ควรสอบถามวิธีการจัดส่งและราคาให้เรียบร้อยก่อนสั่งทำ จะได้เปรียบเทียบเลือกแหล่งพิมพ์ที่ดีที่สุด

เป็นอย่างไรกันบ้างกับเรื่องราวน่ารู้ในครั้งนี้ เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะไปช่วยจุดประกายให้ผู้ผลิตหันมาให้ความสำคัญกับโรงพิมพ์พลาสติก ผู้ช่วยขั้นสุดท้ายก่อนวางขายสินค้ากันมากขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้ให้ดีกว่าที่เคย เพราะ “ความโดดเด่น” คือสิ่งสำคัญมากในการทำการตลาด

Jared Frazier

Related Posts